เลือกซื้อเครื่องเติมอากาศแบบไหนดี
เลือกซื้อเครื่องเติมอากาศแบบไหนดี ? เครื่องเติมอากาศแบบโรตารี กับ แบบจุ่มแตกต่างกันยังไง?
จุดเด่น จุดด้อย ระหว่างเครื่องเติมอากาศโรตารี กับ เครื่องเติมอากาศแบบ Submersible
เครื่องเติมอากาศทั้งสองชนิดนี้ต่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้เครื่องเติมอากาศชนิดใดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขนาดของบ่อ ความลึกของน้ำ ปริมาณลมที่ต้องการ พื้นที่ติดตั้ง หากรู้จักลักษณะเฉพาะเครื่องจักรทั้งสองชนิดนี้จะช่วยให้สามารถเลือกใช้งานได้เหมาะสมยิ่งขึ้น
เครื่องเติมอากาศโรตารี (Rotary Air Blower)
คือ เครื่องเติมอากาศโรตารี Rotary Air blower เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ โดยทำงานผ่านการหมุนของใบพัด(lobe) ภายในตัวเครื่อง ทำให้เกิดแรงดูดอากาศเข้ามาภายใน และบีบอัดอากาศให้ออกมาในรูปของฟองอากาศขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งจะกระจายตัวอย่างรวดเร็วในน้ำ ทำให้เกิดการถ่ายเทออกซิเจนอย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเด่น:
- ประสิทธิภาพสูง: สามารถเติมอากาศได้ปริมาณมากและกระจายตัวได้ดี
- หลากหลายขนาด: มีให้เลือกหลากหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ 0.6-355 m3/min ขนาดท่อ 32-400 mm. และความลึก 1000mmAq – 8000 mmAq เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งาน
- ทนทาน: วัสดุที่ใช้ผลิตมีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน
- บำรุงรักษาง่าย: ติดตั้งบนพื้นทำให้สะดวกแต่การดูแลรักษา
จุดด้อย:
- เสียงดัง: เครื่องโรตารีส่วนใหญ่จะส่งเสียงดังกว่าเครื่องเติมอากาศแบบจุ่ม
- ใช้พื้นที่ติดตั้ง : เพราะต้องติดตั้งบนบก
- ใช้พลังงานค่อนข้างสูง: เนื่องจากต้องใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อน
เครื่องเติมอากาศแบบ Submersible
เครื่องเติมอากาศแบบ Submersible หรือ ปั๊มลมจุ่ม เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาให้ทำงานใต้น้ำโดยตรง โดยมีหน้าที่หลักในการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ เครื่องเติมอากาศแบบ Submersible จะจมอยู่ใต้น้ำ และทำงานโดยการดูดน้ำเข้ามาภายในตัวเครื่อง จากนั้นใบพัดจะหมุนและปล่อยน้ำที่เต็มไปด้วยออกซิเจนออกมาในรูปแบบของละอองฝอยหรือฟองอากาศเล็กๆ ทำให้เกิดการถ่ายเทออกซิเจนในน้ำได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง
จุดเด่น:
- เงียบ: เนื่องจากตัวเครื่องอยู่ใต้น้ำ ทำให้เสียงรบกวนน้อยมาก
- ประหยัดพื้นที่: ไม่ต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้งบนบก
- ประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อนดี: เนื่องจากตัวเครื่องจมอยู่ในน้ำ ทำให้เครื่องไม่ร้อนเกินไป
- เหมาะกับบ่อที่มีความลึก: สามารถติดตั้งได้ในบ่อที่มีความลึก
จุดด้อย:
- ราคาสูงกว่า: โดยทั่วไปจะมีราคาสูงกว่าเครื่องเติมอากาศแบบโรตารี (Rotary Air Blower)
- บำรุงรักษายากกว่า: เพราะติดตั้งใต้น้ำ จึงให้การบำรุงรักษาและตรวจสอบทำได้ยากลำบาก
- อาจมีปัญหาเรื่องตะกอน: หากน้ำในบ่อมีตะกอนมาก อาจทำให้ใบพัดอุดตัน
หวังว่าจากบทความข้างต้นจะช่วยให้ผู้ใช้งาน ผู้ออกแบบ สามารถเลือกใช้เครื่องเติมอากาศได้ง่ายและเหมาะสมต่อการใช้งานมากขึ้น หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามมาที่เรา บริษัท บีลีฟ วิศวกรรม ได้เลยนะคะ