Corrosion & Erosion

การกัดกร่อน (Corrosion) กับ การกัดเซาะ (Erosion) ต่างกันอย่างไร?



 

 

การกัดกร่อน (Corrosion) และ การกัดเซาะ (Erosion) เป็นกระบวนการที่ทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ แต่มีสาเหตุและผลกระทบที่แตกต่างกัน



การกัดกร่อน (Corrosion)

  • ความหมาย: เป็นกระบวนการทางเคมีหรืออิเล็กโทรเคมีที่ทำให้วัสดุ (โดยเฉพาะโลหะ) เสื่อมสภาพ เนื่องจากปฏิกิริยาทางเคมีกับสิ่งแวดล้อม เช่น อากาศ น้ำ หรือสารเคมีอื่นๆ
  • สาเหตุ: เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ทำให้โลหะสูญเสียอิเล็กตรอน และเกิดสนิมหรือสารประกอบอื่นๆ ที่ทำให้โลหะเปราะและแตกหักได้
  • ตัวอย่าง: สนิมเหล็ก, ทองแดงเป็นสีเขียวเมื่อสัมผัสกับอากาศชื้น
  • ผลกระทบ: ทำให้โครงสร้างโลหะอ่อนแอลง เกิดการรั่วซึม เสียหาย และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

การกัดเซาะ (Erosion)

  • ความหมาย: เป็นกระบวนการทางกายภาพที่ทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ เนื่องจากการเสียดสีหรือการกระแทกซ้ำๆ กับวัตถุอื่นๆ หรือของเหลว
  • สาเหตุ: เกิดจากแรงทางกล เช่น การไหลของน้ำ ลม ทราย หรือวัตถุแข็งที่ขัดสี
  • ตัวอย่าง: การกัดเซาะของหน้าดิน, การสึกหรอของท่อ
  • ผลกระทบ: ทำให้วัสดุสึกหรอ เปลี่ยนรูป หรือแตกหักได้

สรุปง่ายๆ:

  • การกัดกร่อน: เกิดจากปฏิกิริยาเคมี 
  • การกัดเซาะ: เกิดจากแรงทางกล 

การป้องกัน:

  • การกัดกร่อน: ป้องกันด้วยการเคลือบผิว, ใช้สารยับยั้งการกัดกร่อน, เลือกวัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อน
  • การกัดเซาะ: ป้องกันด้วยการลดแรงกระแทก, ใช้วัสดุที่ทนทานต่อการสึกหรอ, ออกแบบโครงสร้างให้มีประสิทธิภาพ

สรุป:

ทั้งการกัดกร่อนและการกัดเซาะเป็นกระบวนการที่ทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ การเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองกระบวนการนี้ จะช่วยให้เราสามารถเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม และวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง เพื่อยืดอายุการใช้งานของวัสดุต่างๆ ได้

 

Visitors: 117,197